ศธ.ยันไม่ฉีกกติกา

การแถลงข่าววันนี้ของกระทรวงศึกษาธิการ แม้จะทำให้ผู้ปกครองและเด็กนักเรียนชั้นม.3 ของโรงเรียนบดินทรเดชา สิงห์ สิงหเสนี หลายคนต้องหมดหวัง เมื่อกระทรวงศึกษาธิการ ไม่ยืนยันว่า จะให้เด็กนักเรียนกลุ่มนี้ เรียนต่อชั้นม.4 ในโรงเรียนบดินทรเดชา สิงห์ สิงหเสนี ตามเดิมหรือไม่ ขณะที่ผู้ปกครองของนักเรียนกลุ่มนี้ มองว่า เป็นการแถลงที่ไม่มีคำตอบที่ชัดเจน แต่ถ้าฟังเสียงของรัฐมนตรีว่าการฯ สุชาติ ธาดาธำรงเวช และนายชินภัทร ภูมิรัตน เลขาธิการกพฐ.อย่างใจเป็นกลาง มีหลายประโยคที่พอจะมองออกว่า โอกาสที่เด็กกลุ่มนี้จะได้กลับเข้าเรียนในโรงเรียนเดิมเป็นไปได้น้อยมาก เพราะมีหลักเกณฑ์และกติกา ที่ทุกคนต้องยอมรับ

ไม่มีใครปฏิเสธว่า หัวอกของคนเป็นพ่อ เป็นแม่ ย่อมอยากให้ลูกได้เรียนในโรงเรียน หรือสถานศึกษา ที่มีชื่อเสียง หรือที่เรียกกันว่า “ดี เด่น ดัง” และกลายเป็นค่านิยมของสังคมไทยมายาวนาน แต่เมื่อโรงเรียนดัง ๆ มีอยู่น้อย แม้จะพยายามสร้างโรงเรียน คู่พัฒนา มาหลายปี แต่ย่อมไม่เพียงพอต่อจำนวนนักเรียนที่เพิ่มขึ้นทุกปี ๆ นั่นคือเหตุผลที่ทำให้ปัญหาเรื่องการรับนักเรียนเข้าเรียนต่อ โดยเฉพาะในช่วงชั้นป.6 ขึ้นม.1 และม.3 ขึ้นม.4 มีเสียงร่ำลือถึงค่า “แป๊ะเจ๊ยะ” ให้เห็นมายาวนานหลายสิบปี ล่าสุดตัวเลขที่ พ.ต.อ.สีหนาท ประยูรรัตน์ เลขาธิการ ปปง.ออกมาบอกว่า ได้รับคำร้องเรียนจากกลุ่มภาคีเครือข่ายต่อต้านการทุจริตคอร์รัปชั่นฯ และเครือข่ายผู้ปกครอง ที่ยื่นเรื่องให้ตรวจสอบเส้นทางการเงิน ของผู้อำนวยการโรงเรียนดัง 20 แห่ง โดยอ้างข้อมูลเรียกรับเงินเพื่อแลกกับที่นั่งเรียน พบว่า ตัวเลขเงินแป๊ะเจี๊ยะพุ่งสูงไปถึง 6 หลักแล้ว ซึ่งการหาคนผิด จากกรณี เงินแป๊ะเจี๊ยะ ต้องปล่อยเป็นหน้าที่ของหน่วยงานที่รับผิดชอบ แม้ที่ผ่านมา จะยังไม่เคยมีหลักฐานเอาผิดใครได้ในเรื่องนี้ก็ตาม!!!

ขอให้กำลังใจเด็กๆ กลุ่มนี้ รวมถึงเด็ก ๆ อีกหลายพันหลายหมื่นคนที่พลาดหวังจากโรงเรียนที่ตั้งใจอยากเรียนต่อ แต่การพลาดหวังครั้งนี้ ไม่ใช่สิ่งสุดท้ายของชีวิต อาจมีคำคมอยู่หลาย ๆ คำ ที่อยากเปรียบเทียบ แต่ความหมายที่ดูธรรมดาสามัญของมันก็คือ เราจะประสบความสำเร็จในชีวิตได้หรือไม่ สิ่งสำคัญที่สุด ไม่ได้อยู่ที่ใคร หรือ อะไรเลย แต่อยู่ที่ตัวเราเองต่างหาก

ขอบคุณคลิปภาพจาก nation channel

ใส่ความเห็น