คลังเก็บหมวดหมู่: ข่าวเด่น

สภาฯป่วนอีกรอบ!!! ลงมติเลื่อนกม.ปรองดองฯ

สภาฯ เกิดเหตุวุ่นวายอีกรอบในวันนี้ โดยเมื่อเวลา 16.30 น.ที่ประชุมสภาฯ ได้กลับมาพิจารณาในญัตติของ นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว ส.ส.น่าน พรรคเพื่อไทย ที่ขอให้เลื่อนระเบียบวาระประชุม เรื่องด่วนที่ 27-30 ว่าด้วยร่างพระราชบัญญัติว่าด้วยความปรองดองแห่งชาติ พ.ศ… (พ.ร.บ.ปรองดอง) อีกครั้ง โดยนายสมศักดิ์ เกียรติสุรนนท์ ประธานสภาฯ ได้แจ้งมติการหารือระหว่างประธานสภาฯ และประธานกรรมาธิการสามัญประจำสภาฯ จำนวน 35 คณะว่าที่ประชุมมีมติ 22 ต่อ 1 ว่าร่าง พ.ร.บ.ปรองดองไม่ใช่ร่างกฎหมายว่าด้วยการเงิน แต่ส.ส.พรรคประชาธิปัตย์ ได้ลุกประท้วง และขอให้เปิดโอกาสให้ ส.ส.ในสภาฯ ได้ซักถามถึงประเด็นการหารือ โดยนายธนา ชีรวินิจ ส.ส.กทม. พรรคประชาธิปัตย์ อภิปรายว่า ส่วนตัวสงสัยในประเด็นการคืนเงินของ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ ที่ถูกศาลสั่งให้ยึดทรัพย์ จำนวน 4.6 หมื่นล้านบาท ว่าต้องนำเงินภาษีของประชาชนคืนให้หรือไม่

จากนั้นเกิดการอภิปรายและประท้วงกันระหว่าง ส.ส.2 ฝ่าย ก่อนที่นายสมศักดิ์ ประธานสภาฯ จะตัดบท ให้ลงมติ ซึ่งเสียงส่วนใหญ่เห็นด้วยกับการเลื่อนร่างกม.ปรองดองขึ้นมาพิจารณาก่อน ด้วยเสียง 272 เสียง ไม่เห็นด้วย 2 เสียง งดออกเสียง 1 เสียง และไม่ลงคะแนน 1 เสียง …………………ตามด้วยความวุ่นวายที่เกิดขึ้นเป็นรอบที่ 2

นอกจากเหตุวุ่นวายที่เกิดขึ้น สิ่งที่ต้องคิดต่อคือ สถานการณ์หลังจากนี้จะเป็นอย่างไร หากต่างฝ่ายต่างดึงดันเดินหน้าตามความต้องการของตัวเอง โดยไม่คำนึงถึงผลเสียที่จะตามมา!!!!!!!

ขอบคุณข้อมูล จากสำนักข่าวเนชั่น

“แม่ซูจี” ของคนพม่า

ก้าวแรกของการเดินทางออกนอกพม่าเป็นครั้งแรกในรอบ 24 ปี ของนางอองซาน ซูจี ผู้นำพรรคฝ่ายค้านในพม่า ถูกจับตาเป็นพิเศษ โดยเฉพาะเมื่อประเทศแรกที่นางซูจี เดินทางมาคือประเทศไทย เพื่อข้าร่วมประชุม World Economic Forum on East Asia หรือ เวทีเศรษฐกิจโลกว่าด้วยเอเชียตะวันออก ซึ่งประเทศไทยเป็นเจ้าภาพในปีนี้ ไม่ว่าเธอจะก้าวไปที่จุดไหนของประเทศไทย สื่อทั้งไทยและเทศจะเกาะติดความเคลื่อนไหวของเธออย่างกระชั้นชิด ซึ่งจุดแรกที่นางอองซาน ซูจี เลือกเดินทางไปคือ การไปพบปะกับแรงงานพม่า ในต.มหาชัย อ.เมือง จ.สมุทรสาคร ท่ามกลางการต้อนรับอันอบอุ่นของแรงงานพม่าในไทย ที่พากันออกมารอรับ “แม่ซูจี”กันอย่างล้นหลาม

 

การเดินทางมาครั้งนี้ของนางอองซาน ซูจี นำมาซึ่งความยินดีของเหล่าแรงงานพม่าในไทย บางคนที่มาต้อนรับถึงกับกลั้นน้ำตาไว้ไม่อยู่ บางคนถือป้ายรูปนางซู จี และป้ายพร้อมข้อความว่า”เราต้องการกลับบ้าน”

สปอร์ตไลท์แรก นอกจากจับจ้องไปที่ตัวของนางซูจี แล้ว ยังพุ่งเป้าไปที่ แรงงานพม่าในไทย ให้หลายคนอดคิดไม่ได้ว่า คนพม่านับล้านคนที่เข้ามาขายแรงงานในไทย มีความเป็นอยู่อย่างไร ถูกเอารัดเอาเปรียบหรือถูกกดขี่ อย่างไรหรือไม่

 

คำปราศรัยแรกของนางซูจี เต็มไปด้วยความนอบน้อม โดยเธอร้องขอขอให้แรงงานพม่า ซึ่งมีอยู่นับล้านคนในประเทศไทย “รู้จักการให้เกียรติประเทศไทยและคนไทย อย่าได้สร้างปัญหาให้กับประเทศไทย ต้องทำงานให้ดีๆ เป็นคนดี ถ้ามีอะไร
ก็ขอให้พูดคุยกับเจ้าหน้าที่ในประเทศไทย อยู่เมืองไทยต้องรู้รักษาความสงบภายในบ้านเมืองของคนไทย ไม่ว่าจะอยู่ที่ไหนก็ขอให้รักประเทศไทยเหมือนกับรักประเทศพม่า และการทำงานก็ต้องทำให้เต็มที่ ช่วยกันดูแลเมืองไทยให้ดี” แต่เธอก็ทิ้งท้ายว่า แม่ซูจี จะกำชับให้เจ้าหน้าที่ในเมืองไทยดูแลแรงงานทุกคนอย่างเท่าเทียมกัน

หลังพบแรงงานพม่าที่จ.สมุทรสาคร นอกเหนือจากภารกิจการประชุม WEF แล้ว วานนี้ นางอองซาน ซูจี ได้เข้าพบกับผู้นำฝ่ายค้านของไทย นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ตามด้วยการเข้าพบ ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง รองนายกฯ ของไทย ซึ่งหนีไม่พ้นถึงการทวงถามถึงหลายเรื่องที่เกี่ยวกับอนาคตของแรงงานพม่าในไทย หลังจากนี้

 

ก้าวย่างของนางอองซาน ซูจี หลังได้รับอิสรภาพ และได้รับเลือกตั้งเป็นส.ส.ฝ่ายค้าน ในทุกวินาที ของเธอ จึงน่าจับตา ว่าเธอจะเดินเกมอย่างไร และจะส่งผลดีต่อคนพม่าที่รักและศรัทธาเธอเหมือนกับแม่แท้ ๆ ซึ่งกระจายอยู่ตามที่ต่าง ๆ โดยเฉพาะในประเทศไทยนับล้านคนในฐานะคนงาน ที่ไทยเองก็ต้องพึ่งพาคนกลุ่มนี้ในระบบเศรษฐกิจปัจจุบันอย่างไร ขณะที่พม่า ซึ่งเป็นเพื่อนบ้านของไทยในอาเซียน ก็กำลังมีความเปลี่ยนแปลงอันน่าระทึกใจอยู่ทุกขณะ

ขอบคุณข้อมูลจาก เว็บไซด์มติชน

ภาพจาก @WattaneeNYY  / @Puijimta

คลิปสภาป่วน !!!

เหตุสภาป่วนเย็นวันที่ 30 พ.ค.หลังประธานสภาฯ สมศักดิ์ เกียรติสุรนนท์ พยายามรวบรัดให้ลงมติเลื่อนวาระการพิจารณาร่างพ.ร.บ.ปรองดองฯ ขึ้นมาพิจารณาก่อน ทำให้เกิดเหตุวุ่นวายตามมา ถึงขั้นส.ส.ฝ่ายค้าน ลุกไปรุมล้อมประธานสภาฯ และพยายามแย่งเก้าอี้ ปธ.สภาฯ

ภาพขณะ เจ้าหน้าที่เข้าอารักขาประธานสภาฯ ก่อนพักการประชุม

ขอบคุณภาพจาก @kasem_ ช่างภาพ nation channel

“บิ๊กบัง” แจงเหตุเสนอกม.ปรองดองฯ

หลังจากีที่มีร่างพ.ร.บ.ปรองดองฯ ฉบับของพล.อ.สนธิ บุญยรัตกลิน ซึ่งมีเนื้อหาใจความโดยสรุปคือล้มล้างคดี และคำตัดสินทั้งหลายทั้งมวลที่เกิดขึ้นอันมีสาเหตุมาจากความขัดแย้งทางการเมือง เริ่มกันตั้งแต่ 15 ก.ย.2548 เรื่อยไปจนถึง 10 พ.ค.2554 ไปนอนรอการพิจารณาอยู่ในสภาฯแล้ว วันนี้ก็มีร่างพ.ร.บ.ปรองดองฯ อีก 3 ฉบับ ถูกเสนอโดยส.ส.พรรคเพื่อไทย 2 ฉบับ ซึ่งเนื้อหาก็ไม่ได้แตกต่างอะไรนักจากร่างฉบับแรกที่เสนอโดยพล.อ.สนธิ บุญยรัตกลินและส.ส.อีก 34 คน แต่สำหรับร่างสุดท้ายของส.ส.แกนนำนปช.ย่อมแตกต่างจาก 3 ร่างแรก ตรงที่ประกาศจุดยืนว่าจะไม่มีการนิรโทษกรรมให้กับคนที่สั่งฆ่าประชาชน และจะไม่นิรโทษกรรมให้กับคดีก่อการร้าย>>

ไม่ต้องสงสัยว่า ….การเสนอร่างฉบับนี้ น่าจะพอซื้อใจคนเสื้อแดงที่เริ่มคิดทบทวนถึงการเคลื่อนไหวที่ผ่านมาของตัวเอง ว่า ต่อไปพอจะสนับสนุนร่างกม.ฉบับนี้หรือไม่ หลังต้องแลกกับการ ที่พวกเขาต้องหอบลูกจูงหลานมานอนกลางถนนใจกลางกรุงเทพฯ อย่างย่านราชประสงค์เป็นแรมเดือน แบบหลับไม่เต็มตื่น ยอมเสียเลือดเสียเนื้อ เพื่อแลกกับประชาธิปไตย และสู้กับพวกอำมาตย์ แต่สุดท้ายก็มาลงเอยที่ ร่างกม.เพื่อความปรองดอง ซึ่งคนเสื้อแดงกลุ่มนี้จะต้องคืดว่า พวกเขาจะได้อะไร นอกจากเงินเยียวยาที่ได้รับไปก่อนหน้านี้แล้ว และที่สำคัญ เมื่อร่างกม.ฉบับนี้ เข้าไปพิจารณาในสภาฯ แล้ว เสียงส่วนใหญ่จะเอาด้วยหรือไม่???

แต่ก่อนจะไปถึงวันนั้น เราไปฟังจุดยืนของพล.อ.สนธิ ในฐานะอดีต ประธานคมช.ผู้ก่อการรัฐประหาร 19 กันยา ว่าทำไม วันนี้ เขากลับมาเสนอกฏหมายล้มล้างสิ่งที่ทำมาเอง พร้อมกับการตอบคำถามว่า งานนี้รับจ็อบใคร ที่อยู่นอกประเทศมาหรือไม่

ขอบคุณคลิปภาพจาก NNANEWS

“ยิ่งลักษณ์”มอบ”ยงยุทธ”จ่ายเยียวยา

เดิมที นายกรัฐมนตรี ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร จะต้องเป็นประธานมอบเงินเยียวยาให้กับเหยื่อการชุมนุมทางการเมือง 522 รายที่ทำเนียบรัฐบาลในเวลา 15.30 น.วันนี้ แต่ในช่วงสาย ๆ มีรายงานว่า นายกฯ ได้มอบหมายให้ นายยงยุทธ วิชัยดิษฐ รองนายกรัฐมนตรี และรมว.มหาดไทย เป็นประธานมอบเงินเยียวยาแทน โดยแหล่งข่าวทำเนียบฯ ให้เหตุผลว่า เกรงว่านายกรัฐมนตรี จะเดินทางกลับจากจังหวัดเชียงใหม่ไม่ทัน

แต่งานนี้ กลับมีผู้ตั้งข้อสังเกตุว่า คงไม่ใช่เพียงเพราะเหตุผลเรื่องการเดินทาง แต่น่าจะมีอะไรที่มากกว่านั้น เพราะการมอบเงินเยียวยาครั้งนี้ ก็กำลังถูกพรรคฝ่ายค้านอย่างประชาธิปัตย์จับตา และเตรียมจะยื่นเรื่องให้ ปปช.ตรวจสอบ ด้วยเหตุผลเป็นการจ่ายเงินโดยไม่มีกฏหมายรองรับ

ขณะที่ก่อนเข้ารับมอบเงินเยียวยาในช่วงบ่าย ก็เกิดปัญหา นางพะเยาว์ อัคฮาด แม่ของน้องเกด กมลเกด อัคฮาด ที่เสียชีวิตบริเวณวัดปทุมวนาราม ออกมาตั้งคำถามถึงการรับเงินเยียวยาครั้งนี้ว่า ทำไม? จะต้องให้มีการลงนามยินยอมว่า จะไม่มีการฟ้องร้องตามมา เพราะกระบวนการปรองดอง นอกจากการเยียวยาแล้ว ต้องมีเรื่องของการค้นหาความจริงไปพร้อมกัน

นายยงยุทธ วิชัยดิษฐ มั่นใจว่า งบประมาณที่นำมาใช้ในการจ่ายเงินเยียวยาครั้งนี้ ไม่ผิดกฏหมาย เพราะเป็นกรณีเดียวกับการจ่ายเงินเยียวยาให้กับผู้ประสบภัยน้ำท่วมที่ผ่านมา ซึ่งก็ไม่มีกฎหมายรองรับเช่นกัน

บรรยากาศการจ่ายเงินเยียวยาที่มีการถ่ายทอดสดในวันนี้ รองนายกฯ ยงยุทธ ปฏิเสธว่า ไม่ได้หวังลดกระแสความไม่พอใจของกลุ่มคนเสื้อแดง ที่มีต่อการวีดีโอลิ๊งค์ ของพ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ในงานรำลึก 2 ปี 19 พ.ค.ที่ผ่านมา ซึ่ง
พ.ต.ท.ทักษิณ พยายามจะบอกให้ลืมอดีต แล้วหันหน้ามาปรองดองกัน อันนำมาซึ่งความไม่พอใจ ของกลุ่มคนเสื้อแดงบางส่วน ที่ต้องสูญเสียใหญ่หลวง แต่นายยงยุทธ ใช้คำว่า เป็นการแสดงความรับผิดชอบในเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น และชดใช้ทางมนุษยธรรม เพื่อเดินหน้าสู่ความปรองดอง …แต่ยังมีคำถามเกิดขึ้นว่า แนวทางที่รัฐบาลของคุณยิ่งลักษณ์ ชินวัตร กำลังเดินอยู่นี้ จะสร้างความปรองดองได้จริงหรือ!!!

ขอบคุณภาพจาก nation channel

ตั้งกก.สอบการรับนร.ของร.ร.บดินทรเดชาฯ

หลังการหารือร่วมระหว่างตัวแทนกระทรวงศึกษาฯ /สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน /ผอ.โรงเรียนบดินทรเดชา(สิงห์ สิงหเสนี)  ร่วมกับผู้ปกครอง และนักเรียนชั้นม.3 ของโรงเรียนบดินทรเดชา (สิงห์ สิงหเสนี) ที่อดข้าวประท้วงเช้านี้  นายพิชิต สุกัญนาญ ที่ปรึกษา รมว.ศึกษาธิการ บอกว่า ได้ข้อสรุปในเบื้องต้นแล้ว โดยนายสุชาติ  ธาดาธำรงเวช รมว.ศึกษาธิการ ให้โรงเรียนบดินทรเดชา (สิงห์ สิงหเสนี) ไปทบทวนกฎเกณฑ์การรับนักเรียนเข้าศึกษาต่อชั้น ม.3 ขึ้น ม.4 จำนวน 57 คน พร้อมให้ตั้งคณะกรรมการสอบสวนการปฏิบัติหน้าที่ของผู้อำนวยการโรงเรียน และวันพรุ่งนี้(22พ.ค.) นายสุชาติรวมถึงผู้ปกครองและนักเรียนที่มีปัญหาทั้ง 57 คน จะมีการแถลงอย่างเป็นทางการอีกครั้ง

นายพิชิตตัวแทนของรมว.ศึกษาธิการ เปิดเผยว่า นายสุชาติได้กำชับก่อนเดินทางไปต่างประเทศว่า ให้แก้ไขปัญหาโดยนึกถึงเด็กเป็นสำคัญ โดยต้องหาที่เรียนให้แก่นักเรียนให้ได้ ดูแลอย่างใกล้ชิดเราจะร่วมกันหาทางออกให้ดีที่สุด

ด้านนายณรงค์ นิยมราษฎร์ ตัวแทนผู้ปกครองของ นักเรียนชั้น ม.3 โรงเรียนบดินทรเดชา (สิงห์ สิงหเสนี) ที่อดข้าวประท้วง บอกว่า ผลที่ออกมาถือว่า น่าพอใจมาก โดยการประชุมครั้งนี้  รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ ได้วิดีโอลิงค์มาร่วมประชุมด้วย ซึ่งสรุปสิ่งที่เกิดขึ้นเป็นความผิดพลาดของระบบโรงเรียนเอง ที่ทำให้เกิดเหตุการณ์เช่นนี้ และทางโรงเรียนรับปากจะรับเด็กทั้งหมด เข้าเรียนต่อ

มีรายงานด้วยว่า วันนี้ ได้มีนักเรียนจากโรงเรียนสวนกุหลาบ ปทุมธานี ประมาณ 100 คน ที่พลาดหวังเข้าเรียนท้งในระดับม.1และม.4  ก็ได้รวมตัวยื่นหนังสือร้องกระทรวงศึกษาฯ เพื่อขอให้เพิ่มห้องเรียนเพิ่มเติมเช่นกัน

ขอบคุณข้อมูลจากเว็บไซด์โพสต์ทูเดย์ และไอเอ็นเอ็น/ ภาพจาก @phassaphol

ไม่รับข้อเสนอนร.อดข้าวประท้วง

 

กพฐ.รับไม่ได้ข้อเสนอนร.อดข้าวประท้วง

 

วันพรุ่งนี้ ต้องดูว่า จะมีทางรอมชอมกันอย่างไร ระหว่างข้อเรียกร้องของเด็กนักเรียนชั้น ม.3 ของโรงเรียนบดินทรเดชาฯ 4 คนที่ประท้วงอดอาหารอยู่ที่หน้าทำเนียบรัฐบาล ตั้งแต่ช่วงเที่ยงของวันที่ 19 พ.ค.เพื่อเรียกร้องให้สามารถกลับเข้าไปเรียนต่อชั้นม.4 ในโรงเรียนเดิมได้ โดยให้เหตุผลว่า มีความไม่ปกติของแนวทางการปฏิบัติในการรับนักเรียน เรียนต่อม.4 ของโรงเรียนตัวเอง “”””ขณะที่สมาคมโภชนาการแห่งประเทศไทย ก็ออกมาแสดงความเป็นห่วงว่า การใช้วิธีนี้ อาจส่งผลกระทบต่อสุขภาพของเด็กในระยะยาว

 

ผู้ปกครองรายหนึ่ง บอกว่า ก่อนหน้านี้ ทางโรงเรียนได้มีการประกาศหลักเกณฑ์ที่จะรับเด็ก ม.3 ต่อ ม.4 ในจำนวนร้อยละ 80 ของนักเรียนทั้งหมด โดยรอบแรกประกาศตามผลการเรียนเกรดเฉลี่ยสูง ซึ่งเด็กก็ยอมรับได้ แต่พอประกาศรอบต่อไป เด็กที่ได้เกรดต่ำกว่า กลับมีโอกาสได้เรียน ขณะที่เด็กที่ได้เกรดเฉลี่ยสูงกลับถูกตัดสิทธิ์ และจากการคำนวณ จำนวนเด็กเก่าที่ได้เข้า เรียนต่อก็มีไม่ถึงร้อยละ 80 จนทุกวันนี้ ทางโรงเรียนก็ยังไม่ยอมที่จะออกมาแก้ไขปัญหา ทำให้เด็กนักเรียนอีกกว่า 200 คน หาที่เรียนไม่ได้ เพราะส่วนใหญ่เต็มหมดแล้ว

 

 

ขณะที่นายอนันต์  ระงับทุกข์ รองเลขาธิการคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน หรือ กพฐ. บอกว่า วานนี้ได้เข้าเจรจากับกลุ่มนักเรียนและผู้ปกครอง พร้อมด้วยผอ.สพม.เขต2 กรุงเทพฯและนายสุวัฒน์ วิวัฒนานนท์  ผอ.โรงเรียนบดินทรเดชาฯ แต่ไม่สามารถตกลงอะไรเนื่องจากทางกลุ่มผู้ปกครองและนักเรียนยังยืนยันที่จะให้กระทรวงศึกษาธิการทำตามข้อเรียกร้อง 3 ข้อคือ

-ยกเลิกระเบียบศธ.ในการรับนักเรียนชั้นม.4

-ขอให้นักเรียนชั้นม.3เดิมทั่วประเทศเรียนต่อม.4 อัตโนมัติ

-ขอให้มีการคืนเงินแป๊ะเจี๊ยะที่ผู้ปกครองนักเรียนทั่วประเทศจ่ายไปและหากไม่คืนให้ไปแจ้งความดำเนินคดี

 

ซึ่งข้อเรียกร้องต่างๆนี้ศธ.คงไม่สามารถดำเนินการได้เพราะทุกอย่างต้องอยู่ในกฎระเบียบการรับนักเรียนของกระทรวงศึกษาธิการ

 

นายอนันต์บอกว่า ได้พยายามเข้าไปเจรจากับเด็กนักเรียนที่อดข้าวประท้วง และผู้ปกครอง โดยมีผอ.โรงเรียนบดินทร์เดชาฯ เข้าพูดคุยด้วย โดยแจ้งให้ทราบว่า ขณะนี้มีเด็กสละสิทธิ์เข้าเรียนม.4 จำนวน 13 คน ซึ่งจะสามารถพิจารณารับเด็กเข้าเรียนได้เพิ่มเติมอีก แต่ต้องเป็นไปตามเกณฑ์ แต่ผู้ปกครองและเด็กบอกว่า ต้องรับเด็ก ม.3 เดิมเรียนต่อทุกคน ซึ่งไม่สามารถดำเนินการได้ เพราะกระทรวงศึกษา ได้จัดให้เด็กทุกคนได้มีที่เรียน โดยจะหาโรงเรียนที่ยังมีที่เรียนให้กับกลุ่มเด็กที่พลาดหวัง แต่หากจะให้เด็กทุกคนได้เรียนต่อในโรงเรียนที่มีอัตราการแข่งขันสูง คงเป็นไปไม่ได้

 

ขอบคุณข้อมูลจากเว็บไซด์ โพสต์ทูเดย์

เจ้าพ่อเฟซบุ๊กแต่งงาน

เช้าวันนี้ มาร์ก ซักเคอร์เบิร์ก ผู้ก่อตั้งเฟซบุ๊ก ได้อัพเดทสถานะล่าสุดของตัวเองว่า ได้แต่งงานกับพริสซิลล่า ชาน แฟนสาวชาวจีนแล้ว

โดยก่อนหน้านี้ทั้งคู่เป็นเพื่อนเรียนอยู่ด้วยกันที่มหาวิทยาฮาร์วาร์ด และเริ่มต้นความสัมพันธ์เมื่อปี 2005 หลังการอัพเดทสถานะของเขาในเฟซบุ๊ก ล่าสุดมีผู้คนในสังคมโลกออนไลน์ เข้าไปกดไลท์ร่วมแสดงความยินดีแล้วกว่า 380,367 คนในช่วงเวลาหลังเขาอัพเดทสถานะประมาณ 4 ชั่วโมง

ด้านสำนักข่าวเอพี รายงานว่า พิธีแต่งงานครั้งนี้มีคนใกล้ชิดร่วมงานไม่ถึง 100 คน โดยจัดขึ้นที่บริเวณสวนหลังบ้านของซักเคอร์เบิร์กในเมืองพาโลอัลโต้ โดยแหล่งข่าวระบุว่าแหวนแต่งงานของชานเป็นแหวนทับทิมธรรมดา

ขอบคุณข้อมูลจากเว็บไซด์โพสต์ทูเดย์

และนี่คือภาพที่เขาอัพเดทในสถานะล่าสุดของเขา

 

 

อีกภาพค่ะ

 

ศาลรธน.ตัดสิน “จตุพร” พ้นส.ส.

ศาลรัฐธรรมนูญได้มีมติ 7 ต่อ 1 ให้นายจตุพร พรหมพันธุ์ สิ้นสุดสมาชิกภาพการเป็นส.ส.พรรคเพื่อไทย
ด้านนายจตุพร พรหมพันธุ์ บอกน้อมรับ คำตัดสินของศาล และไม่เกินความคาดหมาย จากนี้จะเดินหน้าต่อสู้ต่อไป และจะสมัครสมาชิกพรรคเพื่อไทยอีกครั้ง และบ่ายนี้จะไปชี้แจงกับคนเสื้อแดงที่อิมพีเรียลลาดพร้าวอีกครั้ง

สำหรับ ส.ส.อันดับ 70 ที่คาดว่าจะได้เลื่อนขึ้นมาเป็นส.ส.แทน “จตุพร” คือ “สรรพภัญญู ศิริไปล์”
หลังการวินิจฉัยให้นายจตุพรสิ้นสมาชิกภาพการเป็นส.ส.สิ้นสุดลง กลุ่มเสื้อแดงที่รอฟังผลต่างส่งเสียงโห่ร้องและระบุว่าคิดว่าแล้วว่าผลจะออกมาเป็นแบบนี้ แต่ยังคงควบคุมสถานการณ์ได้
ด้านกกต.ประพันธ์ นัยโกวิท ชี้แจง เหตุที่กกต.รับรองให้นายจตุพร รับสมัคร รับเลือกตั้ง เพราะ รัฐธรรมนูญไม่ได้ห้ามไว้ว่า ผู้ที่ถูกคุมขัง จะไม่มีสิทธิลงสมัครรับเลือกตั้ง แต่ที่กกต.ร้องภายหลัง ให้พ้นสมาชิกภาพการเป็นส.ส.เพราะ เชื่อว่า ขาดสมาชิกภาพการเป็นส.ส.เนื่องจากไม่ได้ไปใช้สิทธิเลือกตั้ง

ขอบคุณข้อมูล /ภาพ จากเนชั่นทีวี @suthida_NBC/@kasem_

เมื่อ ตร.ไล่จับ ตร.!!

เขียนเรื่องนี้ ณ 16.10 น. มีมุมมองที่น่าคิด และน่าติดตามว่า ณ เวลานี้ พ.ต.อ.พิจิตร กรมประสิทธิ์ ผกก.ไทรงาม จ.กำแพงเพชร ซึ่งถูกออกหมายจับในคดีปล้นรถขนเงิน ธ.กสิกรไทย สาขาอินทร์บุรี จ.สิงห์บุรี อยู่ที่ไหนกันแน่ แม้วันนี้ ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง รองนายกรัฐมนตรี จะออกมาให้สัมภาษณ์ว่า พ.ต.อ.พิจิตร หนีออกนอกประเทศไปแล้ว และจุดหมายน่าจะอยู่ที่พม่า โดยมีรายงานว่า ผู้กำกับสภ.ไทรงาม อาจใช้ช่องทาง ผ่านไปทางอ.แม่สอด จ.ตาก หรือไม่ก็ใช้ช่องทางผ่านไปทางจ.เชียงราย ข้ามไปยังพม่า เพราะมีรายงานเรื่องการพบสัญญานโทรศัพท์มือถือของพ.ต.อ.พิจิตร ในพื้นที่จ.เชียงราย !!

 

 

แต่เมื่อตร.ระดับ ผู้กำกับ ต้องแปรเปลี่ยน กลายมาเป็น “โจร” หนีตำรวจ ซะเอง ชั้นเชิง และกลยุทธ์ ในการหนี และไล่จับ จึงต้องทันกัน ทำให้ พล.ต.ต.สุรเชษฐ์ โทปุญญานนท์ ผบก.ภ.จว.เชียงราย ออกมาตั้งข้อสังเกตุ หลังได้รับรายงานว่า พบสัญญานโทรศัพท์มือถือของ พ.ต.อ.พิจิตร ในพื้นที่จ.เชียงราย เมื่อช่วง 05.00 น.ของวันที่ 16 พ.ค.ที่ผ่านมาว่า เจ้าตัว อาจจะไม่ได้เข้ามาในพื้นที่จริงก็ได้ แต่ใช้ให้คนอื่น นำโทรศัพท์เข้ามาในพื้นที่ ขณะที่ตัวเอง อาจจะกบดานอยู่ที่อื่น…แล้ว เพื่อหลอกให้ตำรวจชุดติดตามไขว้เขว …..จึงน่าจับตามองต่อไปว่า เมื่อต้องไล่ตามตร.ด้วยกันเอง จะกวดกันทันเมื่อไหร่ ซึ่งเมื่อถึงวันนั้น สิ่งที่หลายคนกังขา ว่าทำไม ตร.ระดับถึง ผู้กำกับ ต้องลงมือปล้นรถขนเงินด้วยตัวเองแบบนี้ !!!

สำหรับชายแดนด้าน จ.เชียงราย ติดต่อกับประเทศพม่า และ สปป.ลาว เป็นระยะทางยาวกว่า 310 กิโลเมตร โดยมีจุดผ่านแดนถาวรเพียง 3 จุดที่ อ.แม่สาย อ.เชียงแสน และ อ.เชียงของ ซึ่งเป็นจุดที่ให้เข้าออกชายแดนได้ตามกฎหมาย แต่ก็ยังมีจุดผ่อนปรน จุดผ่านแดนชั่วคราว และช่องทางผ่อนปรนที่ชาวบ้านทั้งสองฝั่งใช้ข้ามไปมาอีกหลายสิบจุด โดยเฉพาะลำน้ำสายชายแดนไทย-พม่า ด้าน อ.แม่สาย ซึ่งตื้นเขินและกว้างไม่กี่เมตรและมักถูกใช้ลักลอบข้ามมาได้เกือบตลอดแนวของแม่น้ำ

ขอบคุณข้อมูลจาก สำนักข่าวเนชั่น